Skip to main content

Chulalongkorn University, Bangkok, Thailand., Mr. Rungsun Klinkaeo On Sunday, October 20, 2024 at 12:32:32 PM.

    Chulalongkorn University Earth Mr. Rungsun Klinkaeo     

style=style=

style=style=style=style=style=style=style=style=style=style=

Bangkok Districts 50 Districts (khet).

 

About 25,200,000 results (0.36 seconds)    


About 2,950,000,000 results (0.55 seconds)   
Thailand..........................................
ThailandMapsCountry in Asia

Search Results

About 940,000,000 results (0.49 seconds)  
Bangkok......................................
BangkokMapsCapital of Thailand

Search Results

About 2,890,000,000 results (0.33 seconds) 

Earth Flags......................................

Search Results

About 4,590,000,000 results (0.39 seconds)    

Earth................................................

Search Results

About 878,000,000 results (0.43 seconds)

World Flags.....................................

Search Results

About 22,840,000,000 results (0.55 seconds)    

World...............................................

Search Results

About 877,000,000 results (0.48 seconds)     

Continents.......................................

Search Results

About 12,950,000,000 results (0.60 seconds) 

Asia.................................................

Search Results

About 9,530,000,000 results (0.49 seconds) 

Africa..............................................

Search Results

About 349,000,000 results (0.44 seconds) 

Search Results

 About 10,130,000,000 results (0.66 seconds) 

Europe............................................

Search Results

About 4,740,000,000 results (0.45 seconds) 

North America...............................

Search Results

About 11,020,000,000 results (0.44 seconds)02

South America...............................

Search Results


About 419,000,000 results (0.40 seconds) 

Antarctica......................................

Search Results


                                        

style=style=

style=style=style=style=style=style=style=style=style=style=

 Chulalongkorn University., Bangkok, Thailand

   Chulalongkorn University, Chulalongkorn University, Chulalongkorn University, Chulalongkorn University Thai 43202, จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย, Chulalongkorn University, Chulalongkorn University, จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย, Chulalongkorn University, Chulalongkorn University, Maps, Maps, Maps, Maps, Maps, Maps, Maps, Maps, Maps, Maps, Maps, Maps, 360°, Home, Wikipedia, Wikipedia, Wikipedia

style=                                                                                


style=


Thailand 77 Seals, Mr. Rungsun Klinkaeo, August 21, 2018.Thailand 77 Provinces.

Thailand 77 Provinces, Mr. Rungsun Klinkaeo, January 5, 2019.

 About 2,950,000,000 results (0.55 seconds)   

Thailand..........................................
ThailandMapsCountry in Asia

Search Results

About 940,000,000 results (0.49 seconds)  
Bangkok......................................
BangkokMapsCapital of Thailand

Search Results

Displaying Achievement.JPG

Displaying Chulalongkorn.JPG

Bangkok Districts 50 Districts (khet).


               


               Chulalongkorn University (จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย), Mr. Rungsun Klinkaeo (นายรังสรรค์ กลิ่นแก้ว)., Chulalongkorn University, Mr. Rungsun Klinkaeo

               1. ชื่อเรื่อง การเปรียบเทียบผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนวิชาภาษาไทยระหว่างวิธีการสอนแบบบทเรียนสำเร็จรูปภาษาไทยเพื่อการสื่อสารและการสืบค้น ท 43202 กับวิธีการสอนแบบปกติ ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6 โรงเรียนบางพลี-ราษฎร์บำรุง อำเภอบางพลี จังหวัดสมุทรปราการ

                2. ผู้วิจัย นายรังสรรค์  กลิ่นแก้ว

                3. สถานที่ติดต่อ โรงเรียนพุทธจักรวิทยา 728/2 ถ. พระรามที่ 4 แขวงสี่พระยา เขตบางรัก กรุงเทพมหานคร 10500 โทร. 0868915381

                4. ปีที่ทำวิจัย 2548

                5. ความเป็นมาและความสำคัญของปัญหา มาตรฐานการเรียนการสอนวิชาภาษาไทยไม่สมบูรณ์ขาดแคลนอุปกรณ์การเรียนการสอน หนังสือเรียน หนังสือแบบฝึกหัด หนังสือนอกเวลาไม่เพียงพอกับจำนวนนักเรียน ตำรา คู่มือครูไม่ทันสมัย นักเรียนเรียนรู้ช้า นักเรียนเรียนนอกเวลาเรียนไม่ได้ ความสามารถไม่สามารถทบทวนได้ สอนซ่อมเสริมไม่ถูกต้อง ครูเป็นผู้ควบคุมการเรียนของนักเรียน ครูเป็นผู้ดำเนินการเสียเอง เป็นผู้ป้อนความรู้ให้แก่นักเรียน เป็นผู้กำหนดว่านักเรียนควรรู้อะไร ควรเรียนอะไร จุดอ่อนคือครูบังคับให้ทุกคนต้องเรียนรู้ในอัตราความสามารถที่เท่ากันด้วยวิธีเดียวกัน ตัดสินใจให้นักเรียนเองทุกอย่างว่าจะต้องทำอะไร เมื่อไร และอย่างไร ภาษาเป็นวัฒนธรรมผูกพันความเป็นชาติ ภาษาจึงมีความสำคัญต่อการดำรงอยู่ของสังคมและประเทศชาติ (ม.ล. บุญเหลือ  เทพยสุวรรณ, 2523, หน้า 2-3) กล่าวว่าชาติต้องมีภาษาของตนเอง การขาดภาษาเป็นการขาดเอกลักษณ์ที่สำคัญยิ่ง ความจำเป็นที่แท้จริงคือการมีภาษาที่สื่อสารได้สะดวกกันทั้งชาติ  ดังนั้น การสอนภาษาของชาติจึงควรได้รับความสำคัญเป็นอันดับหนึ่งในวงการศึกษา การสอนภาษาไทยให้ได้ผลดี ผู้สอนต้องปูพื้นฐานในด้านทักษะทางภาษา ฟัง พูด  อ่าน และเขียน เป็นเครื่องให้นักเรียนใช้ภาษาได้ถูกต้องตามที่เรียนได้อย่างเหมาะสม ซึ่งเมื่อนักเรียนสามารถใช้ภาษาสื่อสารในชีวิตประจำวันได้ถูกต้อง ถือว่าผู้สอนนั้นประสบความสำเร็จในการสอนภาษา Andreas (1960, p. 339) ให้ข้อคิดเห็นว่า การใช้ภาษาเป็นเรื่องของการเรียนรู้ ซึ่งต้องอาศัยทั้งวุฒิภาวะและประสบการณ์ เมื่อเป็นเช่นนี้ ครูจึงมีหน้าที่สอนให้นักเรียนมีความรู้ความสามารถทางภาษาไทยจนนำไปศึกษาวิชาแขนงต่าง ๆ เป็นเครื่องมือแสวงหาความรู้ในสาขาวิทยาการอื่น ๆ และนำไปประกอบอาชีพได้ (สนม  ครุฑเมือง, 2521, หน้า 3) ภาษาไทยเป็นวิชาที่มีความเป็นนามธรรมมีสระพยัญชนะและวรรณยุกต์ที่ทำให้ผู้เรียนเกิดการเรียนรู้จะต้องใช้ทักษะทางภาษาอย่างมีวิจารณญาณต้องศึกษาไปตามลำดับอย่างมีกระบวนการ โดยที่นักเรียนจะต้องมีทักษะขั้นพื้นฐานจึงจะโยงไปยังทักษะที่สูงกว่าต่อไป ในการสอนภาษาไทย พบว่านักเรียนมีความยุ่งยากมีปัญหาในการเรียน ยังมีความคิดเป็นรูปธรรมมากกว่านามธรรมทำให้เกิดความสับสนในการเรียนวิชาภาษาไทย ปัญหาของนักเรียนดังกล่าว ควรได้รับการแก้ไขให้ลุล่วงไปเป็นลำดับขั้น มิฉะนั้นปัญหาเหล่านี้จะเป็นผลทำให้พื้นฐานทางวิชาภาษาไทยของนักเรียนล้มเหลว และจะเป็นผลในการเรียนระดับสูงต่อไป ดังนั้น ในการสอนวิชาภาษาไทย  ถ้านักเรียนไม่มีทักษะทางภาษา อาจจะส่งผลไม่ประสบผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน ความล้มเหลวในการเรียนวิชาภาษาไทยระดับมัธยมศึกษา โดยทั่วไปพบสาเหตุมาจากวิธีการสอนของครู ส่วนใหญ่ยังยึดการสอนแบบบรรยาย ซึ่งเป็นการป้อนเนื้อหาวิชาให้นักเรียนเพียงอย่างเดียว เพื่อจะได้สอนทันตามที่กำหนดไว้ในหลักสูตร โดยไม่คำนึงถึงตัวผู้เรียนว่าจะเกิดการเรียนรู้หรือไม่ มากน้อยเพียงไร (บุญทัน  อยู่ชมบุญ, 2529, หน้า 46-47) ผลจากการสอนนี้เองทำให้ผู้เรียนเกิดความท้อถอย หมดความพยายามที่จะเรียนต่อไป นอกจากนี้ความสามารถหรือสติปัญญาทางการเรียนภาษาไทยของนักเรียนแต่ละคนยังแตกต่างกัน นักเรียนที่เรียนเก่งหรืออยู่ในระดับปานกลางก็จะสามารถสนองตอบต่อวิธีการสอนของครูได้ ส่วนนักเรียนเรียนช้าค่อย ๆ ไปก็จะไม่สามารถเรียนตามได้ทัน โดยเฉพาะนักเรียนในระดับชั้นมัธยมศึกษาตอนต้นต้องมีการประเมินผลโดยการสอบปลายภาคเรียน เพื่อเตรียมพร้อมที่จะเข้าศึกษาในระดับมัธยมศึกษาตอนปลายต่อไป จึงเป็นการสมควรอย่างยิ่งที่ครูผู้สอนจะต้องวางรากฐานความรู้ภาษาไทยให้กับนักเรียน โดยต้องแก้ไขปัญหาวิธีการสอน เพื่อปรับปรุงและพัฒนาคุณภาพการเรียนวิชาภาษาไทยของนักเรียนให้ดียิ่งขึ้น วิธีการหนึ่งที่ผู้วิจัยเชื่อว่าน่าจะนำเข้ามามีบทบาทในการแก้ไขปัญหาต่าง ๆ ในการสอนวิชาภาษาไทยให้ได้ผลดีก็คือ การสอนโดยใช้บทเรียนสำเร็จรูปภาษาไทย เพราะบทเรียนสำเร็จรูปภาษาไทยสามารถช่วยส่งเสริมให้นักเรียนเรียนด้วยตนเอง โดยไม่ต้องคอยเรียนไปพร้อม ๆ กัน สามารถสนองความสามารถและความแตกต่างระหว่างบุคคลได้เป็นอย่างดี ผู้ที่เรียนเก่งเรียนได้เร็วก็สามารถเรียนบทเรียนให้จบก่อนได้ ส่วนผู้ที่เรียนช้าก็เรียนไปตามความสามารถและความต้องการได้ โดยที่บรรลุเป้าหมายของการเรียนเหมือนกัน การนำบทเรียนสำเร็จรูปภาษาไทยมาใช้ช่วยประกอบการสอนนี้จะช่วยแบ่งเบาภาระในการสอนของครูทำให้ครูมีเวลาว่างที่จะเตรียมบทเรียนค้นคว้าสิ่งที่เป็นประโยชน์มาเพิ่มเติมให้แก่นักเรียนมากยิ่งขึ้น อีกทั้งยังช่วยแก้ปัญหาการขาดแคลนครู หรือช่วยแก้ปัญหาการเพิ่มนักเรียนมีจำนวนมากเกินกว่าความรับผิดชอบของครูที่จะดูแลได้อย่างทั่วถึงอีกด้วย (วิจิตร  ศรีสอ้าน, 2512) จากปัญหาของการเรียนการสอนวิชาภาษาไทย และข้อดีของบทเรียนสำเร็จรูป ภาษาไทย ผู้วิจัยต้องสร้างบทเรียนสำเร็จรูปภาษาไทย ท 43202 สำหรับใช้สอนนักเรียนในระดับชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6 เพื่อช่วยแก้ปัญหาในการเรียนการสอนภาษาไทย และคาดว่า การวิจัยนี้น่าจะมีส่วนกระตุ้นให้ครูผู้สอนได้ทำการศึกษาและสร้างบทเรียนสำเร็จรูปภาษาไทย  ที่จะเป็นประโยชน์ต่อการศึกษา เป็นการเปิดโอกาสให้นักเรียนได้ศึกษาด้วยตนเอง ฝึกทักษะฟัง พูด อ่าน และเขียน ในการสื่อสาร ยังเป็นการแบ่งเบาภาระของครูอีกทางหนึ่งด้วย ปัญหาส่วนใหญ่เกิดจากความแตกต่างระหว่างบุคคลนั่นเอง โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ความสามารถในการรับรู้ และเวลาที่ใช้ในการเรียนรู้ต่างกัน  แต่เวลาเรียนจำกัด สื่อที่สามารถสนองตอบต่อความแตกต่างระหว่างบุคคลในเรื่องนี้ได้เป็นอย่างดี คือ บทเรียนสำเร็จรูปสอดคล้องกับความคิดของ Bloom (1976, p. 125) ที่เสนอแนะข้อบกพร่องของนักเรียนเป็นรายบุคคล เพราะเป็นการแก้ไขตัวแปรด้านความถนัดของนักเรียนแต่ละคนที่ไม่เหมือนกันให้ลดลงได้ ดังนั้นผู้วิจัยจึงสนใจที่จะสร้างบทเรียนสำเร็จรูปขึ้นมา ใช้ประกอบการสอนวิชาภาษาไทย ท 43202 เพื่อช่วยให้ผู้เรียนได้มีการเรียนเพิ่มเติม และสามารถเรียนได้ด้วยตนเองจนสามารถบรรลุจุดประสงค์การเรียนรู้  เกิดผลสัมฤทธิ์ในการเรียนตามที่กำหนดไว้ในจุดประสงค์การสอน

              ปัญหาเชิงทดลอง ตัวแปรต้นหรือตัวแปรอิสระคือวิธีการสอน และตัวแปรที่มีผลต่อผลสัมฤทธิ์ต่อการวิจัยคือผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน โดยหลักจิตวิทยาแล้วนักเรียนสามารถเรียนได้ด้วยตนเอง ตัดสินใจเรียนอะไรที่เขาต้องการเอง ผู้เรียนสามารถสร้างจุดประสงค์ในการเรียนรู้สามารถหาแหล่งวิชาทำกิจกรรมต่าง ๆ ได้ด้วยตนเอง จุดประสงค์ของการสอนก็คือให้ผู้เรียนมีอิสระเต็มที่เป็นตัวของตนเอง ครูเป็นเพียงผู้อำนวยความสะดวกในการเรียนรู้ และให้ความช่วยเหลือเท่านั้นเป็นวิธีการสอนแบบบทเรียนสำเร็จรูปภาษาไทยเพื่อการสื่อสารและการสืบค้น ท 43202

                                   6. วัตถุประสงค์การวิจัย 6.1 เพื่อสร้างบทเรียนสำเร็จรูปภาษาไทยเพื่อการสื่อสารและการสืบค้น ท 43202 ให้มีประสิทธิภาพ 80/80 6.2 เพื่อศึกษาผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนวิชาภาษาไทยที่สอนด้วย วิธีการสอนแบบบทเรียนสำเร็จรูปภาษาไทยเพื่อการสื่อสารและการสืบค้น ท 43202 6.3 เพื่อเปรียบเทียบผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนวิชาภาษาไทยระหว่างวิธีกาสอนแบบบทเรียนสำเร็จรูปภาษาไทยเพื่อการสื่อสารและการสืบค้น ท 43202 กับวิธีการสอนแบบปกติ ชันมัธยมศึกษาปีที่ 6

             7. วิธีดำเนินการวิจัย/นวัตกรรม การวิจัยครั้งนี้เป็นการวิจัยเชิงทดลอง (experimental research) มีวัตถุประสงค์เพื่อเปรียบเทียบผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนวิชาภาษาไทยระหว่างวิธีการสอนแบบบทเรียนสำเร็จรูปภาษาไทยเพื่อการสื่อสารและการสืบค้น ท 43202 กับวิธีการสอนแบบปกติ ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6 โรงเรียนบางพลีราษฎร์-บำรุง อำเภอบางพลี จังหวัดสมุทรปราการ  สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน กระทรวงศึกษาธิการ โดยมีขั้นตอนวิธีการวิจัย  ดังนี้ การออกแบบการวิจัย ประชากรและกลุ่มตัวอย่าง เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัย การสร้างบทเรียนสำเร็จรูปภาษาไทย ท 43202 ให้มีประสิทธิภาพ 80/80 วิธีการเก็บรวบรวมข้อมูล การวิเคราะห์ข้อมูลและสถิติ

             8. ผลการวิเคราะห์ข้อมูล จากผลการวิเคราะห์แสดงให้เห็นว่าค่าทีเรโซ (t-ratio) ที่คำนวณได้มีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ 0.05 แสดงว่าคะแนนผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนวิชาภาษาไทยของนักเรียนที่เรียนด้วยวิธีการสอนแบบบทเรียนสำเร็จรูปภาษาไทยเพื่อการสื่อสารและการสืบค้น ท 43202 กับวิธีการสอนแบบปกติมีความแตกต่างอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ 0.05 และพบว่ากลุ่มที่เรียนโดยวิธีการสอนแบบบทเรียนสำเร็จรูปมีคะแนนผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนสูงกว่ากลุ่มที่เรียนโดยวิธีการสอนแบบปกติ

             9. สรุปและอภิปรายผลการวิจัย ผลการวิจัยพบว่า ผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนวิชาภาษาไทยระหว่างวิธีกาสอนแบบบทเรียนสำเร็จรูปภาษาไทยเพื่อการสื่อสารและการสืบค้น ท 43202 กับวิธีการสอนแบบปกติ ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6 มีความแตกต่างอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ 0.05 ยอมรับสมมติฐานว่า ผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนวิชาภาษาไทยของนักเรียนที่เรียนด้วยวิธีการสอนแบบบทเรียนสำเร็จรูปภาษาไทยเพื่อการสื่อสารและการสืบค้น ท 43202 สูงกว่าการเรียนด้วยวิธีการสอนแบบปกติ

      บทคัดย่อ

               การวิจัยครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อที่จะเปรียบเทียบผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนวิชาภาษาไทย ท 43202 ระหว่างวิธีการสอนแบบบทเรียนสำเร็จรูปภาษาไทยเพิ่อการสื่อสารและการสืบค้น ท 43202 กับวิธีการสอนแบบปกติ  

                ประชากรที่ศึกษาได้แก่ นักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6 โรงเรียนบางพลีราษฎร์บำรุง จำนวน 119 คน ที่กำลังศึกษาในภาคเรียนที่ 2 ปีการศึกษา 2548 โดยใช้วิธีสุ่มอย่างง่าย  (simple random sampling) จำนวน 74 คน แบ่งเป็นกลุ่มทดลอง 1 กลุ่ม จำนวน 37 คน  เรียนวิธีการสอนแบบบทเรียนสำเร็จรูปภาษาไทยเพื่อการสื่อสารและการสืบค้น ท 43202 กลุ่มควบคุม 1 กลุ่ม จำนวน 37 คน เรียนวิธีการสอนแบบปกติ เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัยครั้งนี้ได้แก่ แบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน มีประสิทธิภาพเท่ากับ 81.25/83.00 การวิเคราะห์ข้อมูลใช้การทดสอบค่าที (t-test)

             ผลการวิจัยพบว่า ผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนที่เรียนวิธีการสอนแบบบทเรียนสำเร็จรูปภาษาไทยเพื่อการสื่อสารและการสืบค้น ท 43202 สูงกว่ากลุ่มที่เรียนด้วยวิธีการสอนแบบปกติอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .05

       ABSTRACT

                The purposes of this research were to comparative achievement between Thai communication and searching programmed lesson Th 43202 method and conservative method.

             A sample of 74 Mathayom suksa 6 Bangpleeratbamrung school Bangplee Samutprakarn was selected by simple random sampling from the population of 119 students. They were then equally divided into 1 experrimental groups achievement between Thai  communication and searching programmed lesson Th 43202 method and conservative method. They were then given a test. The instruments of this were achievement test had the efficiency values of 81.25/83.00 respectively.The data was analyzed by t-test.

                The study results showed that with learning achievement between Thai communication and searching programmed lesson Th 43202 method higher than conservative method at the .05 statistical level.


Copyright © Chulalongkorn University, Bangkok, Thailand., Mr. Rungsun Klinkaeo On Wednesday, January 4, 2023 at 15:56:39 PM. Inc. All rights reserved. klinkaeorthairs@gmail.com Site

Comments

Popular posts from this blog

Homepage, Thailand., Mr. Rungsun Klinkaeo On Saturday, October 12, 2024 at 14:50:19 PM.

มหาวิทยาลัยรามคำแหง (Ramkhamhaeng University)., Mr. Rungsun Klinkaeo On Sunday, October 20, 2024 at 11:38:39 AM.